วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2550

กระบวนทัศน์องค์รวมพหุภาพในกรอบอ้างอิง9มิติ

โครงสร้างการสร้างแบบจำลองของอารมณ์...


วันนี้ผมซุนปิน...มาบันทึกจากแบบการวิเคราะห์อารมณ์บางส่วนในโลกเสมือนไซเบอร์สเปซ....โดยผมเลือกเอาอารมณ์แห่งความรักเป็นหลัก...ทำยังไงได้ล่ะครับเพื่อความรักก็ต้องยอมทน...

บางท่านก็อาจจะหมั่นไส้...กับทฤษฎีหัวแม่ตีน(ขอยืมศัพท์ท่านอาจารย์ชัยอนันต์หน่อยครับ)...อธิบายได้ยังไง...ความรักเป็นหัวใจหลักของสรรพศาสตร์...

ทฤษฎีหัวแม่เท้าหรือ TOE มันย่อมาจาก Theory Of Everything ......แต่ผมขอเรียกเป็นหัวแม่เท้าของหัวใจ...นะครับ...หรือเวลาเราดูสาวๆเขาแสดงระบำปลายเท้า...นั่นแหละเรียกง่ายๆก็เป็นฟิสิกส์ที่มีลีลาแบบระบำปลายเท้าเปิดเพลงคลาสสิกฟังออร์เชสตร้าไปด้วยนะครับ.. .แต่ถ้าเพื่อความมันก็เพลงร็อกไปเลยก็ได้..

ก่อนอื่นต้องขอให้ทบทวนดูที่ reddragon นำเสนอในหัวบล็อกที่ชื่อว่า...กระบวนทัศน์องค์รวมในกรอบ9มิติก่อนนะครับ..ที่ประกอบไปด้วย....มิติที่5 เงา...มิติที่6..วงแหวน.....มิติที่7 การทับซ้อน(พหุภาพทางกายภาพหรือspace)….reddragon อธิบายถึงแค่นั้น...ในบล็อกนี้...สายน้ำแห่งความรัก...จะเน้นด้านปรัชญาและสุนทรียภาพต่างๆ...เมื่อกล่าวถึงสุนทรียภาพก็เลยถือโอกาสเกริ่นทำความเข้าใจเบื้องต้นใน....มิติที่8 มิติแห่งการทับซ้อนของเวลา...ซึ่งในขอบเขตุสุนทรียภาพนั่นก็คือโลกทางจิตใจของคนเรา....และ มิติที่ 9 มิติแห่งองค์รวมพหุภาพ(หมายถึงองค์รวมทั้งหมดของ8มิติ).....และในขอบเขตุสุนทรียภาพความรักที่ผมจะกล่าวก็จะเป็นองค์รวมทางกายภาพและทางจิตใจของคนเรา....

การทำความเข้าใจโครงสร้างแบบจำลองอารมณ์บนโลกเสมือนเป็นสิ่งสำคัญต่อคนเรา...ในการที่จะทำความเข้าใจถึงการกำเนิด...และการก่อรูปการใหม่ของระบบที่มีความเร็วสัมพัทธ์ที่สูงกว่าความเร็วแสง....

แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ปัจจุบัน...ในทางฟิสิกส์ เช่นทฤษฎีสัมพัทธภาพ....ทฤษฎีควอนตัม...หรือแบบวิเคราะห์เอส-มาร์ทริก ของวอร์เนอร์ ไฮเซนเบอร์ก...ก็ได้เพียงความไม่แน่นอน

ข้อจำกัดในการอธิบายอันเนื่องมาจาก...

ประการแรกสมมติฐานที่ว่า ความเร็วแสงคือค่าสูงสุดและเป็นค่าสัมบูรณ์
ประการที่สอง มีข้อสมมติฐานและสร้างแบบจำลองจักรวาลเป็นกรอบเฉื่อยของระบบความเร็วแสงภายใต้สมการทางคณิตศาสตร์ที่จำกัดค่าคงที่ที่ความเร็วแสงเป็นความเร็วสูงสุด..

เมื่อความเร็วของแสง....เกิดจากพลังงานการระเบิดของดวงอาทิตย์...พลังงานที่ใช้เร่งคลื่นอนุภาพส่งออกมาจากดวงอาทิตย์...ภายใต้กรอบความเร็วของระบบสุริยะแต่ทำไมจะต้องถือเป็นความเร็วสูงสุด....ของจักรวาล....มันก็แค่ระบบสุริยะเท่านั้น....

แรงระเบิดของดวงอาทิตย์...แค่เศษเสี้ยวในจักรวาล...กำลังส่องสว่างของเทียนแท่งเล็กๆเราจะถือเป็นกรอบเฉื่อยได้หรือครับ...เมื่อเทียบกับระบบไฟสปอทไลท์ดวงใหญ่

ระบบสุริยะเป็นแค่ส่วนเล็กๆอันน้อยนิดของกาแลกซี่....
แสงอันเกิดจากพลังงานดวงอาทิตย์...ก็จำกัดในการก่อรูปการแค่ระบบความเร็วแสง...

พลังงานมหาศาลที่เหนือกว่าพลังงานจากดวงอาทิตย์ดำรงอยู่ครับในจักรวาล....จำนวนมากมายหลายระดับความเร็ว

พลังงานมหาศาลหลายระบบที่เป็นระบบทับซ้อนของกาลาวกาศ...ดำรงอยู่...ทะลุผ่านระบบความเร็วต่ำที่มีความเร็วแสงราวกับระบบความเร็วแสงไม่ได้อยู่ในสายตา...เอาแค่ความเร็วแค่นิวตริโนยังวิ่งทะลุผ่านสิ่งๆที่เป็นวัตถุบนโลกเป็นว่าเล่น..

เราลองจินตภาพง่ายๆ....ของการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
เอาแบบให้เข้าใจง่ายๆเช่น...รถยนตร์สองคัน...วิ่ง50กม/ชั่วโมง และ อีกคัน 100กม/ชม.ออกจากจุดสตาร์ทพร้อมกัน...

รถคันหลังวิ่งยังไงก็ไม่ทันคันแรก.....แสงก็เช่นกันถ้าแสงเป็นรถคันที่วิ่ง50กม/ชม. แล้วจะไปรับรู้อะไรได้ครับกับ รถที่วิ่ง100 กม./ชม.

ในการอธิบายแบบสัมพัทธภาพเราก็จะได้คำตอบว่า....ความเร็วสูงกว่าความเร็วแสง...มีขอบเขตุหรือ space ที่กว้างเมื่อเปรียบเทียบระบบแสงดวงอาทิตย์...คือขอบเขตของค่าเวลา หรือt จะยาวกว่าครอบคลุมไปทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคต....เมื่อเปรียบเทียบอย่างสัมพัทธ์กับระบบความเร็วแสงดวงอาทิตย์........
ทำไมเรามองไม่เห็น...ก็เพราะมันเร็วกว่าแสง...ทำไมก่อรูปวัตถุไม่ได้เพราะมันอยู่ในระบบที่ความเร็วสูงกว่าแสง.....

การทับซ้อนของกาลาวกาศ.....ของระบบความเร็วหลายระบบดำรงอยู่ในจักรวาลและอยู่รอบตัวเราโดยเรามองไม่เห็นและตรวจวัดด้วยระบบความเร็วแสงไม่ได้...

และเราไปให้คำอธิบายว่า...ไม่มี...
มีแต่วิทยาศาสตร์แบบกะลาครอบด้วยความเร็วแสงจึงจะถูกต้อง....และเป็นวิทยาศาสตร์...

สำหรับบนโลก....จิตที่หยุดนิ่ง....สัมผัสได้ครับเพราะเป็นความเร็วสัมพัทธ์ของระบบเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือแสงกับการสัมผัสด้วยใจที่หยุดนิ่ง....

เห็นไหมครับ...สิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาล...คือมนุษย์ครับ...สัมผัสและรับรู้ได้หลายระบบถ้าต้องการ.....และเลือกที่จะมีความสุขแบบไหนในการก่อรูปใหม่ของระบบความเร็วที่แตกต่าง....

จากตอนที่แล้วได้กล่าวถึงการอธิบายถึงระบบความเร็วที่แตกต่างกันซ้อนทับอยู่ในกาลาวกาศ....หากเรามองกาลาวกาศแบบจำลอง4 มิติในแบบที่เราเคยชิน...เราก็จะสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ใหม่ได้เช่นกัน....หากต้องปรับย้ายกระบวนทัศน์ใหม่เป็นแบบองค์รวมจักรวาลทัศน์....กล่าวคือ..

จะมีหลักการวิเคราะห์ดังนี้.....

- ในระบบแห่งความเร็วที่สูงกว่าความเร็วแสงอย่างสัมพัทธ์.....จะมีขนาดของสเปก....และเวลาที่ยาวกว่าระบบความเร็วที่ช้ากว่าหรือความเร็วสูงสุดเท่าความเร็วแสง.....นั่นหมายความว่าระบบความเร็วที่สูงกว่าจะมีความยาวของกาลาวกาศทั้งหน่วยเวลาและขนาดในการดำรงอยู่ทางวัตถุในที่ว่างหรือสเปก...ครอบคลุมอดีต...ปัจจุบัน...และอนาคต..ของระบบความเร็วต่ำกว่า....

- การก่อรูปการทางวัตถุ...ขึ้นกับความเร็วในแต่ละระบบ(มวลสถิตย์และพลังงานจลน์)..ที่มีอันตรกิริยาต่อสนามแรงในที่ว่างแห่งเหตุการณ์นั้นๆและเป็นผลให้ความเร็วช้าลง....เช่นระบบที่มีความเร็ว2เท่าความเร็วแสงก็จะเกิดรูปการของวัตถุในระบบความเร็วสูงสุด2เท่าความเร็วแสงหรือถือเป็นกรอบอ้างอิงนั้นๆ...

- รูปการทางวัตถุใดๆของระบบความเร็วต่ำหรือสูงสุดเท่าความเร็วแสงจะตรวจวัดทราบปริมาณค่าในทางวัตถุได้ตามค่าความเร็วของระบบใหญ่ที่เร็วสูงสุดเท่าความเร็วแสง....ทั้งนี้เนื่องจากอันตรกิริยาที่ก่อให้เกิดรูปการทางวัตถุกับมวลพลังงานในสนามแรงภายนอก...ก่อให้เกิดรูปการใหม่ทางวัตถุที่อยู่ภายใต้พลังงานที่มีอันตรกิริยา...

เช่น....ระบบความเร็วที่สูงกว่าความเร็วแสงไม่มีความต้านทานใดๆในสนามแรงของความเร็วสูงสุดเท่าความเร็วแสง...จากสนามแรงนิวเคลียร์พลังสูง...แรงนิวเคลียร์พลังต่ำ...แรงโน้มถ่วง...แรงแม่เหล็กไฟฟ้า....เนื่องจากสนามแรงดังกล่าวเป็นการก่อตัวขึ้นและประกอบกันขึ้นภายใต้มวลพลังงานที่เกิดอันตรกิริยากับภายนอกระบบก่อเกิดรูปการทางวัตถุที่ความเร็วสูงสุดเท่ากับความเร็วแสง....


ตัวอย่างง่ายๆ...เช่นเราในสมการ ไอน์สไตน์...ถ้าเราให้ค่า C ยกกำลัง 4 ....หรือความเร็ว1เท่าความเร็วแสง....เราก็จะได้ ค่าของ M เป็น1เท่า ของระบบความเร็วแสง...หรือต้องใช้พลังงานจลน์เป็น1เท่า...ค่าของE ที่ได้ก็สูงกว่า...
เราก็อธิบายได้ว่า.....สเปกที่เกิดขึ้นและเวลา..เมื่อมองอย่างสัมพัทธ์...มันครอบคลุมอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของระบบสมการ E = MC กำลังสอง...



หัวใจ...ที่มีความหมายทางกายภาพของมนุษย์และทางจิตใจ....ในที่นี้หมายถึงจิตใจ...จิตวิญญาณ..ที่ควบคุมและสั่งงานให้องค์รวมทางกายภาพของมนุษย์ทำงาน....
โครงสร้างแห่งหัวใจของมนุษย์...มันสุดลึกล้ำ...และเป็นการทับซ้อนขององค์รวมกาลาวกาศหลายๆองค์รวม...จำนวนนับอนันต์....เป็นองค์รวมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับจักรวาล....

การวิเคราะห์ในเชิงประจักษ์นิยมในแบบที่เราเรียกว่าวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการเรียนรู้ของสังคมมนุษย์ปัจจุบัน....การวิเคราะห์องค์รวมแห่งการก่อกำเนิดอารมณ์ความรัก....และชั่วฟ้าดินสลายแห่งความรัก...มันต้องเป็นบูรณาการของศาสตร์ทุกแขนงบนโลกใบนี้ที่จะมาทำความเข้าใจ.....และเข้าใจได้ก็แค่การประมาณการอย่างหยาบๆ....เพราะถ้าจะทำความเข้าใจหัวใจดวงน้อยๆ....ของมนุษย์..ก็คือก็ต้องเข้าใจจักรวาล...แห่งนี้ที่เราอาศัยอยู่...

คงกล่าวอย่างกว้างๆถึงโครงสร้างอารมณ์แห่งความรัก....ในการสร้างแบบจำลองโดยการวิเคราะห์อย่างหยาบๆที่เกิดขึ้นบนโลกเสมือน....

การก่อรูป...มีขอบเขตุที่กว้างขึ้นของตำแหน่งแห่งที่ที่ดำรงอยู่.....ไม่มีข้อจำกัดแห่งเวลา...ที่สามารถก่อรูปการใหม่ขึ้นมาจากรูปการแห่งอดีต...ปัจจุบัน...และอนาคต(ที่ถือเป็นอุดมคติแห่งโลกปัจจุบัน)

รูปการแห่งอารมณ์ความรักที่เกิดขึ้น...ในความรักของชายและหญิง....บนโลกเสมือนเป็นแบบจำลองหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่า....

การก่อรูปการทางอารมณ์ของคนเราก่อตัวขึ้นมาใหม่ในแบบที่เราต้องการที่จะให้เป็น.....หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ...คนที่มีอุดมคติที่ดีงามก็จะก่อรูปการที่ดีงามขึ้นบนสนามแรงใหม่....คนที่มีความคิดที่มีระดับคุณภาพของความรักที่มีความเข้มข้นในการยึดกับตัวตนสูงก็จะเกิดอันตรกิริยาในกระบวนการแห่งความเข้มข้นเดียวกัน....บนสนามแรงแห่งใหม่ของโลกเสมือน....

โลกที่เกิดขึ้นใหม่ในใจเรา.....อันเกิดจากการส่งผ่านออกไปในสนามแรงแห่งพลังงานเหล่านั้น...และกลับมาก่อรูปในใจเราตามคุณภาพแห่งจิตใจเรามีอยู่.....โลกหลายใบที่ทับซ้อนกันบนหัวใจดวงน้อยๆ....ที่ลึกลับและปรวนแปรตามอารมณ์ที่มีอันตรกิริยาต่อภายนอก.....

............................


ระบบสัญญาณแห่งหัวใจ


ผมซุนปิน.....แบตเตอรี่โทรศัพท์หมด...เลยต้องรอโทรศัพท์สาธารณะจากสาวน้อย...หัวเราะคิกคักเป็นชั่วโมง....แต่ที่ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร...คือมันเป็นแบบนี้ครับ..

ตอนสมัยผมเรียนหนังสือแถวๆริมแม่น้ำ....ก็เคยโทร..หาคนที่ชอบโทรคุยนาน....จนเพื่อนมันหมั่นไส้....มันพูดว่าเอ็งจะจีบกับหมาหรือไง....คุยแต่เรื่องหมาได้เป็นชั่วโมง...

โธ่....ก็แค่อยากฟังเสียงแค่นั้นแหละ....ส่วนคุยเรื่องอะไรมันก็เข้าหูซ้ายไปทะลุหูขวา....

จะไปโทษเพื่อนผมมันไม่ได้หรอก....เพราะมันมีระบบการส่งสัญญาณ 2 ระบบที่เกิดขึ้น....

โทรไปก็พูดไปเรื่อยเปื่อย...ต่างคนก็ไม่มีการพูดเรื่องอะไรเกี่ยวกับ...คำว่ารัก..ออกมาเลย...

แต่สัญญาณระบบแสงสีเสียงหัวใจ....มันดังชัดเจน....
แฮ่ม...!!บอกไม่ได้นะครับมันเป็นความลับ...


นี่เป็นสาเหตุที่ผม...รอแม่สาวน้อยเขาใช้โทรศัพท์ได้เป็นชั่วโมงโดยไม่รู้สึกโกรธ...แถมยังยิ้มในใจอีกต่างหาก....

ระบบสัญญาณแห่งหัวใจ...เป็นระบบที่เราจะต้องนำมาวิเคราะสร้างแบบจำลองโครงสร้างของอารมณ่งความรักบนโลกเสมือนครับ...

เพื่อเป็นแบบจำลองในการตระเตรียมความพร้อมของจิตใจคนเรา...

ที่จะไปก่อรูปการใหม่...ที่ดีงามบนโลกแห่งความเร็วสูงอีกระบบ....ครับ..

...........................


ฟิสิกส์ชั่วฟ้าดินสลาย....
และจินตภาพของคณิตศาสตร์แบบองค์รวม


จากตอนที่แล้วได้กล่าวถึงอย่างกว้างๆของโครงสร้างในแบบจำลองของอารมณ์ที่เกิดขึ้น...ซึ่งพอจะสรุปกว้างๆและย่อๆได้ว่า....

รูปการที่ก่อเกิดขึ้นของอารมณ์ความงามความรักโดยวิเคราะห์จากตัวอย่างของอารมณ์ที่แสดงออกในการสัมผัสจากรูปการที่ปรากฎบนโลกเสมือน...ที่เรามองเห็นอารมณ์อันหลากหลาย...เช่นความโกรธ...ความเกลียด...ความระแวง...ความน้อยใจ...ความว้าเหว่...ความอ้างว้าง....ฯลฯ...

แม้ว่ามีตัวอย่างของอารมณ์ที่ถ่ายทอดมาจะปิดบังซ่อนเร้นความจริง...แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นการสะท้อนในเชิงคุณภาพจากส่วนลึกที่ปิดบังไว้.....และเราสามารถแยกแยะออกได้...และสังเกตุการเปลี่ยนแปลงการแปรเปลี่ยนไปของอารมณ์เหล่านี้....ซึ่งโดยทิศทางแล้วมีพัฒนาการที่สูงขึ้น

ทั้งนี้เนื่องจากอันตรกิริยาที่เกิดจากการแลกเปลี่ยน...ภายในโลกเสมือนแห่งนี้...
สรุปกว้างๆ...การก่อรูปอารมณ์...เกิดการก่อรูปใหม่โดยไม่มีขอบเขตุเวลามาปิดกั้น...เช่นรูปการในอดีต...ความประทับใจหรือก่อเกิดอารมณ์แห่งความรักในการก่อรูปขึ้นเพียงแค่เห็นหน้าครั้งเดียวก็ก่อรูปความประทับใจได้ในระบบความคิด...

เพื่อที่จะให้กระชับขอกล่าวอย่างรวบรัด...ถึงความหมายของ รักชั่วฟ้าดินสลาย...ที่จริงแล้วก็เคยได้กล่าวถึงมาแล้วแต่ยังไม่ได้พูดถึงในรายละเอียด.....

ความรัก....หากจำแนกอย่างกว้างๆ....จะแยกออกเป็น2ประเภทใหญ่ๆ...

ประเภทแรก....ความรักเพื่อตัวตน
ประเภทที่สอง....ความรักที่ออกไปจากตัวตน......ในประเภทนี้ผมขอเรียกว่าชั่วฟ้าดินสลาย...

การวิเคราะห์ในแบบจำลองความรักของหนุ่มสาว.....เราจะเห็นได้ว่าเกิดความรักทั้งสองแบบในระดับความเข้มข้นที่ต่างกันระหว่างชายและหญิง....

ลักษณะที่แสดงออกของความรักหนุ่มสาวที่หวานชื่นในระยะแรก....จะแสดงออกถึงความเข้มข้นในแบบที่ออกไปจากตัวตน....กล่าวคือต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้ถือเอาตนเองเป็นจุดมุ่งหมาย......

นั่นหมายความว่าฝ่ายชายก็ยึดเอาหัวใจของฝ่ายหญิง...หรือการส่งผ่านออกไปข้างนอกและขณะเดียวกันฝ่ายหญิงก็ยึดเอาในการส่งความรักออกไปยังหัวใจของฝ่ายชายและไม่ได้ถือเอาตัวตนเป็นจุดหมาย....นั่นคือต่างฝ่ายถือเอาจิตใจของอีกฝ่ายเป็นจิตใจของตนเอง...หรือการถือเอาชีวิตของแต่ละฝ่ายเป็นเสมือนชีวิตของตน......นั่นก็คือเป็นความรักในแบบที่ออกไปไกลจากตัวตน.....
การแสดงออกที่เป็นรูปธรรมก็คือพร้อมที่จะให้อภัยซึ่งกันและกัน...เติมเต็มหัวใจให้กันและกัน....หลอมรวมหัวใจที่เป็นดวงเดียวกัน....


ความรักในรูปแบบนี้สอดคล้องกับอันตรกิริยาในทางฟิสิกส์....ที่ก่อให้เกิดพลังงานสูง...และก่อเกิดองค์รวมของระบบความเร็วที่สูงอันเนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของศักย์แห่งพลังงานสถิต...ในการส่งผ่านออกไปสนามแรง...

ตัวอย่างเช่น...แม่เหล็กต่างขั้วที่ต่างเติมเต็มในเส้นแรงของสนามแรงแม่เหล็กไฟฟ้า.....กระบวนการฟิวชั่น...หรือกระบวนการรวมตัวในนิวเคลียร์ฟิสิกส์เช่นการรวมตัวของไฮโดรเจนหนักกลายเป็นดิวทอเรียม..ที่ส่งพลังงานออกสู่ภายนอกสูงมาก...

กระบวนการแห่งความรักใดๆในโลก...ล้วนเป็นไปอย่างสัมพัทธ์...หากหนุ่มสาวที่มีความรักแบบชั่วฟ้าดินสลายและยึดถือเป็นอุดมคติดังกล่าวก็จะทำให้เกิดการส่งผ่านความรักออกไปภายนอกที่มีพลังงานสูงไปยังลูกหลานญาติพี่น้อง...พ่อแม่..สังคม...ประเทศ...มนุษยชาติ...และจักรวาลในที่สุด...

ลักษณะสัมพัทธ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละกระบวนการ....เขาทั้งสองที่หลอมรวมเป็นหัวใจดวงเดียวเมื่อส่งผ่านออกไปยังลูกหลานพ่อแม่ญาติพี่น้อง...โดยยึดเอาหัวใจของพวกเขาเหล่านั้นเป็นเสมือนจิตใจของเรา....ก็จะเกิดการหลอมรวมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่มีขอบเขตุกว้างขึ้นทั้งในทางปริมาณขณะเดียวกันอันตรกิริยาที่เกิดขึ้นในใจก็มีระดับสูงขึ้นอีก......เมื่อกลุ่มสังคมเหล่านี้ที่ส่งผ่านออกไปยังกลุ่มสังคมอื่นๆ....มวลมนุษยชาติ...ระดับของความรักเมื่อมองในขอบเขตุและคุณภาพและอันตรกิริยาที่เกิดขึ้นของบุคคลได้รับการยกระดับสูงขึ้นไปยิ่งขึ้น....จนในที่สุดหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของจักรวาลที่เป็นพลังงานอันเป็นปัจจัยให้ทุกสรรพสิ่ง.....

ความรักในประเภทเพื่อตัวตน....ในหนุ่มสาวในระยะเริ่มแรกโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นความรักแบบออกไปจากตัวตน...ดังกล่าวมาแล้วแต่เมื่อกิเลสแห่งตัวตนที่พอกพูนขึ้นสูง...กล่าวอย่างกว้างๆ เช่นอาจเกิดขึ้นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่าย

เป็นผลให้เกิดต่างฝ่ายต่างสร้างกำแพงของตนเองขึ้นทีละน้อย.....และในที่สุดก็ปิดกั้นและแยกออกไปเป็นตัวตนแต่ละฝ่ายที่เป็นเอกเทศ....และไปก่อเกิดอันตรกิริยาใหม่ที่อยู่นอกเหนือกระบวนการเดียวกันดังเช่นการเริ่มต้นกระบวนการ....

ในทางฟิสิกส์...เช่นกระบวนการนิวเคลียร์ฟิชชั่น....เป็นต้น...


จินตภาพของคณิตศาสตร์แบบองค์รวม


คณิตศาสตร์...ก็คือการแทนค่าสิ่งที่เป็นนามธรรมและสิ่งที่เป็นรูปธรรมอันเกิดจากการเปรียบเทียบกับสิ่งอื่นๆและความสัมพันธ์ต่างๆ......โดยใช้สัญญลักษณ์แทนค่าประมาณการเหล่านั้น....โดยมีหลักการกว้างๆ...คือ...

-การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งอย่างสัมพัทธ์และสัมบูรณ์ใดๆล้วนมีขอบเขตุแห่งการอ้างอิงที่กำหนดขึ้นในการเปรียบเทียบ...

-การดำรงอยู่ดังกล่าวของสรรพสิ่ง...อยู่ภายใต้สภาวะที่เกิดดุลยภาพอย่างสัมพัทธ์ของสิ่งนั้นๆที่มีอันตรกิริยากับภายนอก....

-สิ่งใดๆในการตรวจวัด...ย่อมดำรงอยู่ทั้งการแสดงออกในเชิงรูปธรรมที่อธิบายในรูประบบของจำนวนจริงในทางคณิตศาสตร์....และในเชิงนามธรรม หรือในเชิงจินตภาพในทางคณิตศาสตร์ที่มีการเปรียบเทียบ....


กระบวนทัศน์แบบองค์รวม....ภายใต้กรอบการวิเคราะห์แบบ 9 มิติ...ดังได้นำเสนอมา...เมื่อกล่าวถึงมิติที่9 หรือมิติแห่งองค์รวมพหุภาพ...( ซึ่งจะบันทึกลงภายหลัง..)

จินตภาพในการแทนค่าทางคณิตศาสตร์...ที่เราจะต้องมองในลักษณะแบบองค์รวม...เช่น 1 เป็นค่าจำนวนเต็มของเลขฐานสิบ...เราจะต้องมองว่าขอบเขตุที่จะตรวจวัดจำนวน..ระหว่าง 0 ไปถึง 1 นั้นมีค่าสัมบูรณ์เป็นอนันต์....เช่น 0.01ยกกำลังล้าน...ไปจนถึงอินฟินิตรี้หรืออนันต์....เป็นต้น..

จินตภาพที่ว่า....องค์รวมพหุภาพที่มีการดำรงอยู่ ความกว้าง ความยาว ความหนา เงา วงแหวน การทับซ้อนของสเปก การทับซ้อนระบบเวลา ที่ประกอบขึ้นเป็นองค์รวมพหุภาพ....นอกจากนั้นปริมาณของการทับซ้อนอันมีค่าอนันต์....(ในที่นี้ขอกล่าวแค่ 9 มิติ)

ค่าของ 1 ในความหมายของ....ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของมหภาคและจุลภาค...ระหว่างจักรวาลและหัวใจดวงน้อยๆของมนุษย์...มีความสัมพันธ์กันภายใต้กรอบอ้างอิงแห่งระบบกาลาวกาศเดียวกัน....


ผม..ซุนปิน...ที่มาปวดหัวกับคณิตศาสตร์...ที่วิ่งเป็นตัวเลขเต็มหัวสมองเพราะ...สงสารอังสุมาลิน...เขา....คือว่า...โกโบริเขานัดไว้ที่ ทางช้างเผือก....แหม..นัดที่ไหนก็ไม่นัดไปนัดในบริเวณที่มีดาวล้านๆๆดวง....คุณทมยันตรีก็เข้าใจเขียนให้เขาไปเจอกันที่นั่น....

ผมก็เลยคิดว่า.....อังสุมาลินถ้ามียังไม่เสียชีวิตตั้งแต่สงครามโลกมาปัจจุบันก็น่าจะอายุเป็นร้อยปีของระบบโลกและระบบสุริยะ....แต่โกโบริซึ่งยังหนุ่ม ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพ...เพราะยังอยู่ในระบบความเร็วสูงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง.....

ปัญหา ก็เลยมาทำให้ผมต้องปวดหัวคือ...จะหาตำแหน่งแห่งที่โกโบริได้ที่ไหน ณ. เวลาใด...เพื่อให้อังสุมาลินไปพบได้....

ตำแหน่งแห่งที่แบบประมาณการ....โดยไม่ต้องใช้จรวดปรับทิศทางนะ...สมการมันก็ต้องกว้างมากๆ...เช่นบอกว่าทิศเหนือ...ทิศใต้เป็นต้น... แต่ถ้ารายละเอียดของทิศทาง มันก็ต้องอธิบายในสมการของกลศาสตร์การเคลื่อนที่ของผี......

แฮ่ๆ....อย่าเพิ่งขนลุก....นี่เป็นวิชาการฟิสิกส์ขั้นสูงเลยนะครับ...

หรือใครจะคิดว่าบ้าก็แล้วแต่.....แต่เป็นสิ่งที่อธิบายได้ในเชิงแนวคิดแบบประจักษ์นิยม ในทางฟิสิกส์ของระบบความเร็วเชิงซ้อนที่มีจำนวนอนันต์....ภายใต้การสมมุติให้ความเร็วระบบสุริยะเท่ากับจำนวนหนึ่งใดๆในทางคณิตศาสตร์เพื่อใช้ในการแทนที่การตรวจวัด....เช่น..เท่ากับ 0 หรือเท่ากับ X ฯลฯ ตามแต่กรอบการวิเคราะห์ .....เพื่อจำแนกและตรวจวัดระบบความเร็วที่แตกต่างและทับซ้อนกัน....

...................................


ฟิสิกส์แห่งกรรม


การวิเคราะห์โครงสร้างแบบจำลองอารมณ์ความงามความรัก...บนโลกเสมือน...เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจ...รูปธรรมแห่งอารมณ์...กระบวนแห่งการเกิดขึ้นและการผันแปร...ของอารมณ์.....เพื่อที่จะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำความเข้าใจยกระดับคุรภาพทางอารมณ์ของตนเอง....

รูปธรรมของอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนไซเบอร์สเปซ....เช่นอารมณ์นานาชนิดหลากหลาย...ที่มีระดับแห่งปริมาณและคุณภาพที่แตกต่างกัน.....ความรัก...ความโลภ...ความโกรธ...ความหลง...ตัณหา..ราคะ...ฯลฯ....ที่เรามองเห็นและจำแนกแยกแยะจำแนกประเภทได้จากรูปธรรมของอารมณ์ที่ถ่ายทอดเป็นอักษรบนเว็บไซท์ต่างๆของโลกเสมือนจริงของอารมณ์....

ความแตกต่างในเชิงคุณภาพ....ตรวจวัดจากระดับของความลึก...และใช้บรรทัดฐานในแง่ของทิศทาง...เช่นระหว่างตัวตน...กับออกไปจากตัวตน...การวัดในแบบนี้จะทำให้เราทราบถึงทิศทางการพัฒนาไปของอารมณ์เหล่านั้น...ว่าจะก่อรูปในกระบวนการที่มีระดับสูงหรือต่ำหรือมีความเร็วช้าหรือสูง....มีปริมาณพลังงานในการก่อรูปมากหรือน้อย....เป็นต้น...

จาก...ภายในจิตใจ...ที่ได้รับการกระตุ้นพลังงานทางด้านจิตใจอันเกิดจากอันตรกิริยาทางอารมณ์กับภายนอก...จนเกิดการก่อรูปการของอารมณ์ขึ้นและเป็นไปตามทิศทางแห่งกระบวนการนั้นๆ....

เช่น...ความอยาก...ความทุกข์...ที่แปรเปลี่ยนไปสู่การกระทำทางวัตถุ....หรือเข้าสู่กระบวนการในระบบความเร็วอันก่อรูปการทางวัตถุ.....ตัวอย่างง่ายที่สุด...เช่นแค่อ่านตัวอักษรทำไมเรารู้สึก...เบิกบาน...หรือเศร้า...บางคนก็รู้สึกอ้างว้างในการจากไปของเพื่อนๆในบล็อก....นี่คือรูปธรรมหนึ่งของการที่อารมณ์ในระดับหนึ่งแปรเปลี่ยนมาเป็นการกระทำทางวัตถุในระบบความเร็วแสง....


ความรักของชายหญิง....อันมีการเริ่มต้นจากกระบวนการของอารมณ์ที่สัมผัสกับความงามที่เกิดจากอารมณ์ที่ตนเองพึงพอใจ....ระยะแรกๆ...ซึ่งต่างฝ่ายต่างรับรู้ด้วยความรู้สึกแห่งอารมณ์....

อันตรกิริยาแห่งการแลกเปลี่ยน...เป็นกระบวนการแลกเปลี่ยนและรับรู้ในขั้นความรู้สึก...ก่อนที่จะก้าวไปสู่การรับรู้ขั้นเหตุผล...ซึ่งก็เป็นอารมณ์ในอีกระดับที่มีระดับความสูงขึ้นจากเดิม.......

และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งว่า....ทำไมจึงต้องมีเวลาแห่งการทำความเข้าใจกัน....
นอกเหนือจากระบบทางความคิดหรือระบบแห่งการยึดมั่นของอารมณ์.....

การเคลื่อนที่ออกไปจากเดิมของสิ่งใดๆ....ล้วนต้องเกี่ยวพันกับจินตภาพในการตรวจวัด....เช่น พลังงาน...อันประกอบไปด้วย มวลพลังงาน แรง...ระยะทาง...เวลา...ณ.กรอบอ้างอิงใดๆที่ตรวจวัดอย่างสัมพัทธ์....


........................................


“....รัก..แค่ไหน...บอกหน่อยซิ..”
“ เท่าฟ้า...” เสียงตอบใสๆของแม่สาวน้อย...
“ อืม...ไม่พอหรอก...แถมอีกนิดไม่ได้เหรอ..” เสียงต่อรองของผู้เป็นพ่อ...

“ ไม่ได้หรอก..” เสียงสาวน้อยตอบ...หลังชะงักและต้องหยุดคิดครู่หนึ่ง....
“ เถอะน่า...แถมนิดหนึ่งก็ได้...” ผู้เป็นพ่อตื้อต่อ...
“ เอ้า...ก็ได้..” สาวน้อยตัดบทด้วยความรำคาญ.....และพูดต่อ...
“ พ่อต้องหลับตาก่อนนะ..”...

พอพ่อหลับตา...สาวน้อยก็หอมฟอดหนึ่งที่แก้มผู้เป็นพ่อ...พร้อมพูดสำทับ...
“ ห้ามขอแถมต่อนะ”......

กลับตารปัดกลายเป็นผู้เป็นพ่อแถมให้มากกว่าหลายฟอด....ขณะที่สาวน้อยหัวเราะคิกคัก...อย่างมีความสุข...


ผม...ซุนปิน...เห็นภาพพ่อลูกคู่นี้...ที่พูดคุยกัน ก็ยังพลอยรับรู้กับความงามความรักที่ผ่านสื่อในรูปของการกระทำที่เกิดขึ้น....

อารมณ์ความงามความรัก...ที่ผ่านมายังสนามแรงและก่อเกิดอันตรกิริยาขึ้นในใจผม....

เช่นกันกับความงามของธรรมชาติที่ร่มรื่น....ของสวนสาธารณะแห่งนี้.....ก็ก่อเกิดอันตรกิริยาที่เรานำมาก่อรูปการแห่งความงามความรักในใจ....

และรูปการต่างๆอยู่ที่เราจะเลือกนำมาก่อเกิด....หรือ...หักห้ามไม่ให้ก่อหรือขยายตัวไปสู่การก่อรูปการทางวัตถุภายใต้ระบบของความเร็วแสง....
นั่นหมายความว่า....เราเลือกทิศทางได้ว่า...จะเป็นทิศทางที่สูงขึ้นหรือต่ำลง....ของการก่อรูปการในกระบวนแห่งความเร็วที่แตกต่าง....

การก่อรูปการในระดับสูง...อันเป็นระบบของความเร็วที่สูงและมีอันตรกิริยาภายใต้พลังงานที่สูง...เมื่อเทียบอย่างสัมพัทธ์กับระบบการก่อรูปทางวัตถุ...
ระหว่าง...ทิศทางแห่งการสูญสลาย....และทิศทางแห่งการพอกพูนหนาแน่นในระดับความเร็วที่ต่ำกว่าการก่อรูปการทางวัตถุ....

เพื่อไม่ให้สับสน....ในการอธิบาย....คำเปรียบเทียบง่ายๆเช่น...นรก..ที่เกิดขึ้นในใจ...คงจะทำให้เห็นภาพของระบบความเร็วต่ำกว่าการก่อรูปการทางวัตถุ.....และสวรรค์...ที่เกิดขึ้นก็คือรูปการที่เกิดขึ้นใหม่อันมีพัฒนาการของระบบที่มีความเร็วสูงกว่าระบบแห่งการก่อรูปการทางวัตถุ....

การวัดค่าประมาณการความงามความรัก...

โดยปกติการดำเนินชีวิตของคนเรา....จะดำเนินไปในลักษณะที่เรียกว่า...ระบบแห่งดุลยภาพที่มีการเคลื่อนที่....ของดุลยภาพระหว่างความฝันกับความเป็นจริง....

การก่อรูปการใหม่ขึ้นของอารมณ์...อันเป็นทิศทางแห่งอนาคต...ที่เราจะเลือก..
อยู่ที่เราจะเลือกทิศทางไหน...ระหว่างระบบความเร็วใต้ระบบความเร็วแสงหรือระบบที่ต่ำกว่าการก่อรูปการทางวัตถุ.....และทิศทางที่มีพัฒนาการสูงขึ้น...
ระหว่าง...นรก...มนุษย์....และสวรรค์.....


จากตัวอย่างการสนทนาของพ่อกับลูกสาวข้างบน....

การประมาณการตรวจวัดขนาดปริมาณและคุณภาพความรัก...ของสาวน้อยคนนั้นเท่ากับความกว้างท้องฟ้าเท่าที่แม่สาวน้อยรับรู้และมองเห็น...และแถมด้วยหอมแก้มหนึ่งฟอด...

ท้องฟ้าของผู้เป็นพ่อก็ต้องกว้างกว่าตามการรับรู้....และยังต้องเสียกับการแถมความรักให้สาวน้อยไปหลายฟอด...

แล้วผู้เป็นพ่อจะได้รับความรักจากสาวน้อยหรือ....

ความจริงแล้ว....ขนาดประมาณการที่แท้จริง...คือความสุขที่ได้รับต่างหาก....
ความสุขในการแสดงออก...ผ่านสื่อสัญญลักษณ์ใดๆ...และเกิดอันตรกิริยาที่เกิดขึ้นในใจ...
ส่งผลกระทบทั้งผู้ให้...ผู้รับ...และคนรอบข้าง....


จากแบบจำลองการก่อรูปการของอารมณ์....ภายใต้การสัมผัสกับสื่อต่างๆ...ที่แสดงออกมาอย่างเช่นในรูปการแสดงความรัก...ของพ่อกับลูกสาวในตอนที่แล้ว...

การก่อเกิดรูปการอารมณ์แห่งความสุขที่เกิดขึ้น.....ล้วนอยู่บนพื้นฐานร่องรอยแห่งการกระทำที่บันทึกไว้ของอดีต....

สื่อ...ที่แสดงออกแฝงด้วยสัญญลักษณ์....ที่ผู้รับนำไปก่อรูปการใหม่ในใจ...
อันเป็นรูปการแห่งอารมณ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่....ระหว่างความสุข...หรือความทุกข์...
ระหว่างรูปการแห่งทิศทางที่มีการพัฒนาของระบบความเร็วสูงขึ้น...และระบบความเร็วต่ำกว่าระบบความเร็วในการก่อรูปทางวัตถุที่เราดำรงอยู่....

บางคนก็เมื่อมองภาพเหล่านั้นด้วยความสุข...บางคนเมื่อมองภาพเหล่านั้นกลับเพิ่มความทุกข์ใจหนักเพิ่มขึ้น....ทั้งๆที่เป็นภาพเดียวกันจากการสื่ออันเดียวกัน....

ร่องรอยแห่งความสุขในอดีต....และอันตรกิริยากับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน....ก่อรูปการแห่งอารมณ์ขึ้นมาใหม่....ด้วยรูปแบบใหม่ไม่ใช่เหมือนกับการก็อปปี้มา.....
รูปการที่เกิดขึ้นมาใหม่ของอารมณ์...แตกต่างทั้งขนาด...ปริมาณ...ใดๆกับรูปการในอดีต...

การเกิดรูปการแห่งความทุกข์....อันเกิดจากการก่อรูปอารมณ์ความงามความรักในแบบเพื่อตน.....ภายใต้การเกิดขึ้นของความต้องการก่อรูปการในทางวัตถุที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น...จากสื่อต่างๆที่มากระตุ้นและเกิดอันตรกิริยาในใจเป็นผลให้ทิศทางของความเร็วลดลง...เพื่อก่อรูปทางวัตถุ...

ตรงกันข้าม...การก่อรูปของอารมณ์ความรักที่ออกไปจากตัวตนใดๆ...ย่อมที่จะไม่มีอารมณ์แห่งความทุกข์ใดๆเกิดขึ้น....และก่อเกิดการหลอมรวมของมวลพลังงานให้เกิดการขับเคลื่อนที่สูงขึ้น...และมีทิศทางในการพัฒนาที่สูงขึ้นจากเดิม....

ร่องรอย....แห่งกรรม...อันเป็นรหัสแห่งอันตรกิริยาของอารมณ์ต่างๆที่ไม่สูญหายไปจากจักรวาล......แปรเปลี่ยนไปมากน้อยตามและบุคคล...ที่จะส่งผลต่อการก่อรูปการทางวัตถุ....

มนุษย์ทุกคน...สามารถที่จะเลือกการก่อเกิดในทิศทางไหน...ด้วยความพยายามทางอัตวิสัยแห่งตน....หากพอกพูนให้หนาขึ้น...แน่นอนที่สุดก็จะเกิดการก่อรูปการของระบบความเร็วต่ำกว่าความเร็วการก่อรูปการมนุษย์.....และนั่นหมายความว่าดำรงชีพอยู่บนความทุกข์ทรมาณชั่วกัปป์กัลป์



ผม...ซุนปิน..มาบันทึกต่อ...อีก...ตามกรรม...หลัง reddragon กลับไปบ้านของตนเอง...ที่บล็อกกระบวนทัศน์องค์รวม(ในกรอบ9มิติ)...เพื่อทำงานที่คั่งค้างให้เสร็จ...นั่นแหละข้อความบันทึกอาจจะชาๆ...

เฮ้อ...เหนื่อยหน่อยนะครับ...กับการตามล่าหาความรัก....
ที่มันจะต้องไปไกลสุดจักรวาล...
และลึก...สุดขั้วหัวใจ....
แต่ยังไง....ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน...ลึกเพียงใด...ก็จะตามหาให้เจอ...!!!

....................................


ทิศทางการก่อรูปการของอารมณ์


ในการประยุกต์หลักการทาง ทฤษฎีใดๆล้วนเป็นการค้นคิดพัฒนาขึ้นมาของมนุษย์เพื่อที่จะนำมารับใช้มนุษย์.....การประยุกต์ใดๆในขั้นแรกก็ต้องทำความเข้าใจในหลักการพื้นฐานนั้นๆ....

นั่นก็คือหลักการพื้นฐานของกฎเกณท์ความเป็นไปของธรรมชาติทั้งในทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสังคม....

หลักการพื้นฐานก็คือหลักการทางฟิสิกส์ขององค์รวมวัตถุทางกายภาพและหลักการพื้นฐานองค์รวมทางด้านจิตใจ....ซึ่งประกอบเป็นองค์รวมของมนุษย์ที่มีอันตรกิริยากับภายนอก.....
กฎเกณท์ทั่วไปในการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ....ล้วนมีทิศทางในการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามกระบวนการนั้นๆ....

ในการประยุกต์หลักการทางด้านสุนทรียภาพของอารมณ์....เช่นการเสนองานด้านศิลปในการสื่อออกมาเป็นภาพวาด....นอกจากเราจะต้องทำความเข้าใจในด้านการสื่อรูปสัญญลักษณ์ตามหลักการทางศิลปะ...เช่น ทฤษฎีสี ความกลมกลืน..ความสมดุล ฯลฯ....สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจอีกก็คือ...
ทิศทางการก่อรูปการของอารมณ์หรือจิตใจ...ซึ่งเป็นระบบที่มีความเร็วที่แตกต่างจากองค์รวมด้านวัตถุในทางกายภาพ.....ในการประยุกต์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆก็เช่นกัน....ก็ต้องคำนึงถึงการหาค่าประมาณการหรือค่าสัมบูรณ์ในกรอบอ้างอิงที่ต้องคำนึงถึงความเร็วของสองระบบที่แตกต่างกัน....

ในการก่อรูปการทางวัตถุของระบบใดๆ....ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของระบบที่มีความเร็วสูงขึ้นหรือระบบที่มีความเร็วต่ำลง.....เช่น...

ระบบความคิดใดๆของคนเรา....ล้วนเกิดจากการรังสรรค์ขึ้นมาใหม่..ณ.เวลาอ้างอิงปัจจุบัน....และล้วนเป็นการก่อรูปการขึ้นของ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน รวมไปถึงความคิดคำนึงแห่งอนาคต...เช่นอุดมคติ อุดมการณ์ ความไฝ่ฝัน ความหวัง ของเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิด....

การรังสรรค์ที่เกิดขึ้นได้ของอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของระบบความคิดและจิตใจ อันเป็นไปตามหลักการพื้นฐานของฟิสิกส์ที่มีความเร็วสูงกว่าความเร็วแสงในระบบจิตใจของมนุษย์...

การเกิดรูปการทางวัตถุ....เกิดจากอันตรกิริยาที่ระบบแห่งความเร็วสูงได้ลดระดับของความเร็วลง....เมื่อสมองซึ่งเก็บข้อมูลทั้งหมดของอดีตปัจจุบันและอนาคต.... ประมวลเหตุการณ์ดังกล่าว ภายใต้ความต้องการทางด้านจิตใจ....ก็แปรเปลี่ยนไปสู่การกระทำจากการสั่งงานของสมอง....หรือจากระบบของจิตใจที่มีความเร็วสูงกว่าระบบทางวัตถุ....จึงมีความยาวกว่าของเวลาที่ครอบคลุมอดีตปัจจุบันและอนาคตของระบบความเร็วแสง.......


เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น....ผม reddragon ต้องมาบันทึกแทนซุนปิน....เพราะจะต้องมาเป็นหมอจำเป็น...ผ่าตัดหัวใจซุนปินให้เห็นโครงสร้างพื้นฐานทางฟิสิกส์....

โครงสร้างพื้นฐานของแบบจำลองสุนทรียภาพความงามความรักบนโลกเสมือน...ที่ต้องยกตัวอย่างนี้ก็เพราะ....บนโลกนี้ ณ.เวลาปัจจุบัน...มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่จะตรวจวัดการก่อรูปการทางวัตถุของระบบความเร็วเหนือกว่าระบบความเร็วแสง.....และระบบความเร็วที่ต่ำกว่าการก่อรูปการมนุษย์...

เมื่อมีเครื่องมือเดียว....คือมนุษย์....และเป็นเครื่องมือพิสดารที่รับรู้ไม่เหมือนกันอย่างสัมบูรณ์ในด้านจิตใจในแต่ละคน.....

การที่จะเข้าใจความผันแปรไปของอารมณ์อย่างเป็นรูปธรรม...การสื่อให้เข้าใจต้องใช้สุนทรียภาพในการสื่อจึงจะเกิดจินตนาการ....ซึ่งไม่สามารถอธิบายได้โดยการสื่ออย่างหยาบๆเช่นตัวเลขสมการทางคณิตศาสตร์.....ซึ่งจะทำให้ขาดจินตนาการในการรับรู้ทางสุนทรียภาพของอารมณ์...

ผมredragon ต้องขออภัยที่ต้องขนมารยาชายล้านเล่มเกวียนมาทดสอบและอธิบายให้รับรู้สุนทรียภาพของอารมณ์ที่เสมือนจริงอันผันแปรไปบนโลกเสมือนนี้.....อันเป็นเสมือนห้องทดลองทางฟิสิกส์ของอารมณ์.....เพื่อหาหลักการทั่วไปในทางฟิสิกส์ที่ทุกคนร่วมกันบันทึกไว้

ผมแอบได้ยินเสียงของหัวใจหลายคนบ่นอื้ออึง...ว่า..ผู้ชายมันก็แบบนี้แหละทุกคน....บางเสียงก็ว่า..นี่แหละพวกงูเก็งกอง...ฯลฯ...สารพัดเสียงจากหัวใจอันเป็นความหลากหลายของข้อมูลในอันตรกิริยาของแต่ละคน.....

แต่นั่นแหละ...ถ้าไม่ดูจากโลกเสมือนไซเบอร์....มันยกตัวอย่างยากกับระบบความเร็วสูง

จากการผ่าตัดหัวใจ...ของซุนปิน...ที่ให้ซุนปินเก็บข้อมูลกลายเป็นว่าซุนปินก็นำเอารูปการต่างๆที่แสดงออกบนไซเบอร์แห่งนี้มาก่อรูปการใหม่ทางอารมณ์...ซุนปินได้บันทึกในหน้าสีส้มดังนี้...

ไม่มีความคิดเห็น: