วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2550

ฟิสิกส์ระบำปลายเท้า17

ฟิสิกส์โลกของนรก


ความเชื่อในทางศาสนาใดๆของมนุษย์ล้วนเป็นการสะท้อนออกถึง...กระบวนการก่อรูปการ
ทางวัตถุในอีกระบบความเร็วที่แตกต่างจากระบบความเร็วการก่อรูปการทางวัตถุ...

พลังงาน ที่ดำรงอยู่ในจักรวาล.....อันเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดรูปการต่างๆของการ
ก่อรูปการทางวัตถุในระบบใดๆ.......

ในกระบวนการคิดของมนุษย์ที่มีอันตรกิริยากับพลังงานที่ดำรงอยู่นี้....รูปการที่
เกิดขึ้นภายใต้ร่องรอยจากการกระทำของมนุษย์....

หากการกระทำอันมีทิศทางของการก่อรูปในกระบวนระบบที่มีทิศทางความเร็วต่ำ....เช่น
การหมุนวนในร่องรอยที่ลึก...เมื่อกระการการระบบพัฒนาไปในทิศทางที่มีมวลพลังงาน
ที่มีความเร็วสูงขึ้น...ก็ทำให้กระบวนการของคนๆนั้น...อยู่ในระบบของความเร็วที่
ต่ำกว่าระบบรวม...

นอกจากนั้น...หากการกระทำใดๆ...ของคนๆนั้น...ล้วนเป็นการกระทำอันสร้างร่องรอย
ของการก่อรูประบบความเร็วต่ำเกินกว่าระบบการก่อรูปการของมนุษย์.....เช่นการ เข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน....การดำรงชีพบนความทุกข์ยากของผู้อื่น...การยึด
มั่นอย่างเหนียวแน่นแห่งตัวตนและก่อเกิดร่องรอยลึกแห่งตัวตนอันเป็นการคงรูปเดิม
ของตัวตนยากแก่การพัฒนาสูงขึ้นของมวลพลังงานระบบ....


ระบบชีวิตมนุษย์....ถือว่าโชคดีที่สุดแล้วครับในทางฟิสิกส์ของโลกจิตวิญญาณ....

มนุษย์สามารถที่จะเลือกสร้างเงื่อนไขแห่งการก่อรูปการทางวัตถุ...ในระบบที่แตก
ต่างได้...

ว่าแต่จะเลือกในทิศทางไหน...

หากมนุษย์เลือกในทิศทาง การก่อรูปการของโลกที่มีระบบความเร็วของมวลพลังงานที่
ต่ำเกินกว่าก่อรูปการเป็นมนุษย์....หรือทิศทางที่โลกของระบบจิตใจที่มีแต่ ความ
โศกเศร้า..ความอาฆาตพยาบาท...ความเคียดแค้น...ความริษยา...ความชิงชัง...ฯลฯ หรือทิศทางอันตรงข้ามกับทิศทางแห่งความงาม....ความรัก..ความสุข...อันเป็นทิศทาง
ของระบบพลังงานสูง...

กว่าจะยกระดับการแปรเปลี่ยนมาสู่ระบบมนุษย์ได้....ไม่ทราบว่ากี่หมื่นกี่พันปี
ของการก่อรูปการทางวัตถุบนโลกนรกที่จะพัฒนาให้มวลพลังงานสูงขึ้นภายใต้สภาพการณ์
แห่งนรกนั้น......เมื่อเทียบกับเวลาในระบบโลกมนุษย์.....อันเป็นไปตามหลักการของ
การก่อรูปการทางวัตถุในระบบใดๆในทางฟิสิกส์....

แม้แต่...บนโลกปัจจุบัน...ถ้าเราเองยังพยายามสร้างหรือก่อรูปการต่างๆ...เพื่อ
ก่อเกิดนรกบนโลก...เช่นการขาดซึ่งความรักในเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่ง.....นรกก็
เกิดขึ้นได้เช่นกันแม้จะเป็นระบบความเร็วของมนุษย์...เพราะมันเป็นหลักการทาง
ฟิสิกส์ถึงทิศทางการก่อรูปการทางวัตถุ.....

การขาดความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...
การเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน....
การทำลายสภาพแวดล้อมต่างๆนาๆ....ที่เร่งสร้างเงื่อนไขวันพิพากษามาถึงเร็ว
ขึ้น...

คิดหรือว่าจะได้พบพระเจ้า...ครับ..

พระเจ้าไม่เคยสอน...ไม่เคยรับหรือติดสินบนจากการเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์...จิตใจ
หยาบช้าเช่นนี้...ถ้าไม่กลับตัวใหม่....ปรับปรุงยกระดับจิตใจใหม่......
หนทางมีทางเดียวครับ...อยู่ในโลกแห่งนรกยาวนานกว่าบนโลกนี้ชั่วกัปป์กัลป์....

สำหรับเราที่ยังมีชีวิตอยู่....ก็จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท....หมายความว่าจง
เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงสถานะภาพที่ไปสู่ระบบใหม่....

เราจะสร้างเงื่อนไขไปสู่ระบบไหน....ก็เลือกเอา...
ระบบบนโลกทางวัตถุมนุษย์...ต่อให้ท่านร่ำรวยเป็นแสนล้าน...ท่านเอาไปได้อย่าง
เดียวคือ......


ร่องรอยแห่งความดีหรือความชั่วเท่านั้นเอง....


หลักการทางฟิสิกส์แล้ว...ระบบเวลามนุษย์สุดแสนจะสั้นมากๆ....ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมง
บนระบบความเร็วสูง....แต่ยาวนานมากหลายหมื่นปีบนระบบความเร็วต่ำ...หรือนรก...

นี่เป็นหลักการทางฟิสิกส์...ล้วนๆเลยนะครับ...

........................


การก่อรูปการทางวัตถุ....ในการอธิบายตามแบบแผนของรูปการแห่งความเชื่อของคนเราใน
รูปการหนึ่ง....เช่นความเชื่อในทางศาสนาอันมีรากฐานจากการก่อเกิดด้วยกระบวนการ
ฟิวชั่น หรือการหลอมรวม หรือกระบวนการแห่งความศรัทธา อันเป็นรากฐานการก่อรูปการ
ทางวัตถุของระบบความเร็วสูงทางระบบความคิด.....

พิธีกรรมต่างๆล้วนเป็นแบบแผนในการก่อรูปการทางวัตถุของระบบความเร็วสูงใน
กรอบกระบวนการคิดหรือจิตใจ....กระบวนแห่งพิธีกรรมจึงเป็นกระบวนการฟิวชั่นในทาง
จิต....

และภายใต้รูปการทางจิตเหล่านั้น....ต่างล้วนมีร่องรอยแห่งทิศทางที่ชัดเจน....

ทิศทาง....ของศาสนาทุกศาสนา...มีทิศทางแห่งความรัก....อันตรงข้ามกับทิศทางแห่ง
ความเกลียด....

ภาวะอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในหลักความเชื่อแบบพุทธศาสนาก็คือนิพพาน....หลัก
การของนิพพานก็คือ...การตัดอารมณ์แห่งกิเลสทุกชนิดเพื่อนำไปสู่การดับสูญหรือการ
ไม่เกิดขึ้นของกระบวนการทางจิต.....

ในทางฟิสิกส์แล้วก็คือ....การดำรงอยู่ของพลังงานในจักรวาล....อันเป็นพลังงานที่
ไม่ก่อเกิดรูปการทางวัตถุด้วยตนเองหรือไม่ได้มีความเอนเอียงในการให้คุณให้โทษ
แก่ผู้หนึ่งผู้ใด....ดำรงสถานะที่เป็นปัจจัยหนึ่งตามธรรมชาติ.....เป็นพลังงาน
ที่สรรพสิ่งสามารถนำไปก่อรูปการทางวัตถุในความหลากหลายของระบบกาลาวกาศอันขึ้น
กับร่องรอยแห่งการสารูป...ของสิ่งนั้นๆ...

ในศาสนาคริสต์ และอิสลาม โดยเนื้อหาหลักก็คือหลักแห่งความรักที่มีต่อเพื่อน
มนุษย์และสรรพสิ่ง....

และมีทิศทาง....ก็คือ...รักที่ออกไปจากตัวตน....อันมีจุดหมายสุดท้าย ก็เช่น
เดียวกับภาวะนิพพานในพุทธศาสนา...

เพราะในทางฟิสิกส์แล้ว....ทิศทางของความรักที่ออกไปจากตัวตน...จุดหมายก็คือการ
สูญสลายตัวตนนั่นเอง....หรือการดำรงอยู่ในจักรวาลอันเป็นพลังงานที่ไม่ก่อรูปการ
ทางวัตถุได้ด้วยตัวเอง....เช่นเดียวกับพลังงานแห่งนิพพาน....

ภายใต้หลักการในทางฟิสิกส์...ที่ว่า...พลังงานใดๆไม่สูญสลายไปจากจักรวาล...
หากสูญหายไปจากจักรวาล....แล้วเราจะเชื่ออีกหรือว่ามีจักรวาล..ในการอธิบายในทาง
ฟิสิกส์และความเชื่อใดๆของมนุษย์....

แนวความเชื่อที่ได้รับการปรุงแต่งด้วยกิเลสแห่งตัวตนอันพอกพูนหนาแน่น....

จึงทำให้....ความเชื่อในทางศาสนาต่างๆ....ได้รับการบิดเบือนจนกลายเป็น
อวิชชา....

ศาสนา...ทุกศาสนาสอนให้มนุษย์ดำเนินชีวิตที่มีทิศทางการพัฒนายกระดับจิตใจสูง
ขึ้น..
และบรรลุในสิ่งที่เราเรียกกัน...ตามการอธิบายในรูปแบบความเชื่อทางศาสนาว่า...
จุดมุ่งหมาย....นิพพาน....จุดมุ่งหมายการเข้าถึงและไปพบพระเจ้า...

ในการอธิบายในทางฟิสิกส์แล้ว....ต่างก็คือจุดหมายเดียวกัน..นั่นคือ

การสูญสลายและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพลังงานในจักรวาล.....


..........................

ไม่มีความคิดเห็น: